เท็ด ซารานดอส ผู้บริหารร่วม Netflix เผยความพยายามเจาะตลาดจีนล้มเหลวตลอด 3 ปี แม้พยายามใช้บริษัทพันธมิตรช่วยดำเนินการในประเทศ ระบุไม่เคยมีคอนเทนต์ใดผ่านการอนุมัติของรัฐบาลจีน พร้อมย้ำว่า “ธุรกิจทั่วโลกยังเติบโตได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาจีน”
ในการให้สัมภาษณ์กับ Semafor ที่เวที World Economy Summit กรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 23 เมษายน เท็ด ซารานดอส (Ted Sarandos) ผู้บริหารร่วม (Co-CEO) ของ Netflix เปิดเผยว่า บริษัทเคยพยายามเข้าไปดำเนินธุรกิจในจีนจริงจังถึงขั้นทำข้อตกลงกับบริษัทท้องถิ่น เพื่อให้สามารถให้บริการในประเทศได้โดยไม่ถูกบล็อกจากอินเทอร์เน็ต แต่ท้ายที่สุดกลับไม่เคยมีคอนเทนต์ใดได้รับการอนุมัติให้เผยแพร่เลยแม้แต่ตอนเดียว
“สามปี ไม่มีแม้แต่ตอนเดียวที่ผ่านการเซ็นเซอร์ของจีนได้” ซารานดอสกล่าว พร้อมยอมรับว่าความพยายามทั้งหมดจบลงด้วยความล้มเหลว แม้ในช่วงเวลานั้นจะเป็นยุคที่คนในฮอลลีวูดจำนวนมากมองว่า ‘ใครไม่บุกจีน = พลาดโอกาสทำเงินพันล้าน’
เขาย้อนเล่าว่า เมื่อ 15 ปีก่อน อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลกต่างจับจ้องจีนเป็นตลาดทองคำที่ใครๆ ก็ต้องเข้าไปให้ได้ “สำหรับผม ผมใช้เวลาอยู่สองสามปี ลองทำทุกทาง”
แต่ถึงที่สุด เขายอมรับว่าจีนไม่มีความสนใจจะให้ Netflix เข้ามาเลย “ผมเห็นคนอีกมากมายใช้เวลา 10 ปีหลังจากนั้น พยายามทำแบบเดียวกัน และจบลงที่จุดเดิมกับผม — ก็คือ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
นอกจากสะท้อนภาพความยากในการเข้าถึงตลาดจีนของบริษัทตะวันตก ซารานดอสยังหยิบยกข้อได้เปรียบจากการไม่มีธุรกิจในจีน ด้วยน้ำเสียงที่แฝงนัยทางการเมืองว่า “เราคือหนึ่งในบริษัทอเมริกันไม่กี่รายที่ไม่มีการเปิดเผยธุรกิจในจีน — ไม่มีปัญหาเซ็นเซอร์ ไม่มีภาษี ไม่มีภาษีนำเข้า (Tariff)” เขากล่าวพร้อมหยอกล้อถึงนโยบายเก็บภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ซารานดอสยังกล่าวด้วยว่า ธุรกิจของ Netflix ยังคงแข็งแกร่งทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่บริษัทได้ลงทุนมากถึง 125,000 ล้านดอลลาร์ระหว่างปี 2020–2024 สร้างงานด้านโปรดักชันกว่า 140,000 ตำแหน่ง และมีการถ่ายทำในทั้ง 50 รัฐของประเทศ
“บางครั้งวงการบันเทิงก็ถูกมองข้ามในดีลการค้า ทั้งที่นี่คือธุรกิจจริงๆ ที่สร้างอาชีพจริงๆ” เขาเปรียบเทียบว่า หากเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่สร้างโรงงานพันล้านดอลลาร์ ก็คงมีประธานาธิบดีไปถ่ายรูปร่วมเปิดตัว แต่ในกรณีของ Netflix ที่เพิ่งเปิดสตูดิโอโปรดักชันขนาดใหญ่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ กลับไร้เงาผู้นำทางการเมือง
เขายังทิ้งท้ายด้วยตัวอย่างในเม็กซิโก ที่ Netflix สร้างศูนย์ถ่ายทำและได้รับเกียรติจากประธานาธิบดีของเม็กซิโกร่วมงานเปิดตัวด้วยตนเอง
แม้จะไม่มีโอกาสเปิดตลาดในจีน แต่ Netflix ก็ยังเดินหน้าขยายอาณาจักรความบันเทิงไปทั่วโลกอย่างมั่นใจ — โดยไม่จำเป็นต้องฝืนผ่านกรอบเซ็นเซอร์จากรัฐบาลใด