ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์ โดยทะลุระดับ $3,300 ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2025 ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจากการจำกัดการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในหมู่นักลงทุนทั่วโลก
ราคาทองคำสปอตในตลาดเอเชียปรับตัวขึ้นกว่า 2% แตะระดับสูงสุดที่ $3,318 ต่อออนซ์ในช่วงเช้าวันพุธ ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าเดือนมิถุนายนในตลาดสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นเป็น $3,299.52 ต่อออนซ์ ทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้ในช่วงต้นปี การพุ่งขึ้นของราคาทองคำครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากทั้งแรงซื้อเก็งกำไรในตลาดฟิวเจอร์ส และการไหลเข้าของเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันที่ต้องการกระจายความเสี่ยงออกจากตลาดตราสารหนี้และหุ้น
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับมาอยู่ในความสนใจของตลาดอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นอัตรารวมสูงสุด 145% โดยในจำนวนนี้มีการยกเว้นชั่วคราวสำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางประเภท เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวอเมริกัน อย่างไรก็ตาม การยกเว้นนี้ยังคงมีระยะเวลาเพียง 90 วัน ทำให้ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ และสร้างแรงกดดันต่อตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางการจีนก็ตอบโต้ด้วยการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% ซึ่งครอบคลุมสินค้าหลักหลายประเภท ทั้งการเกษตร ยานยนต์ และเทคโนโลยี
ในอีกด้านหนึ่ง บริษัท Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำด้านชิป AI รายใหญ่ของโลก ได้ออกมาเตือนนักลงทุนว่า บริษัทอาจต้องบันทึกมูลค่าการด้อยค่าทางบัญชี (impairment) สูงถึง $5.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2025 อันเป็นผลจากมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำหนดให้การขายชิป AI ประสิทธิภาพสูง เช่น H20 และ B200 ให้กับลูกค้าในจีน ต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานรัฐบาลกลาง ซึ่งอาจทำให้ Nvidia สูญเสียรายได้สำคัญจากตลาดจีนที่เป็นหนึ่งในตลาดหลักของบริษัท ความเคลื่อนไหวนี้ยังส่งผลให้ราคาหุ้นของ Nvidia ร่วงลงกว่า 6% หลังปิดตลาด และยังฉุดให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในเอเชียอ่อนตัวตามไปด้วย
แม้ในช่วงเวลาเดียวกัน จีนจะรายงานตัวเลข GDP ไตรมาสแรกที่เติบโตเกินคาด แต่ตลาดก็ยังมีความกังวลว่า ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสองประเทศอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนในไตรมาสต่อไป โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงภาคการส่งออกและเทคโนโลยีที่พึ่งพาตลาดโลกอย่างมาก
นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ได้ออกมาปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำสิ้นปี 2025 ขึ้นเป็น $3,300 ต่อออนซ์ จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ $3,100 โดยระบุว่า แรงซื้อทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ต้องการเพิ่มความมั่นคงของทุนสำรองระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันนักลงทุนรายใหญ่ก็มองว่าทองคำเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังดำเนินอยู่
โดยรวมแล้ว ราคาทองคำที่ทะยานขึ้นในครั้งนี้สะท้อนถึงความวิตกของตลาดที่ลึกซึ้งมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ และผลกระทบจากการแยกตัวทางเทคโนโลยีกับจีนที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพในระยะยาวของทั้งตลาดการเงินและอุตสาหกรรม AI ระดับโลก ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ทองคำยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับนักลงทุนที่แสวงหาความมั่นคงในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน
ที่มา : Oil set for weekly rise on new Iran sanctions, OPEC cuts By Reuters
ติดตามเราได้ที่
