Monday, April 28, 2025

ตลาดรถยนต์สหรัฐฯ เผชิญภาวะขาดแคลน หลังผู้บริโภคเร่งซื้อก่อนภาษีนำเข้า 25% มีผล

Share

ตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญภาวะขาดแคลนรถใหม่และรถมือสองอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศบังคับใช้ภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศในอัตรา 25% เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2025 ส่งผลให้ผู้บริโภคแห่ซื้อรถล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงราคาที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยข้อมูลจาก Cox Automotive ระบุว่า อุปทานรถยนต์ใหม่ในต้นเดือนเมษายนลดลงเหลือ 2.69 ล้านคัน จาก 2.99 ล้านคันในต้นเดือนมีนาคม คิดเป็นการลดลงถึง 10.2% และถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน ในขณะที่จำนวนวันจำหน่ายเฉลี่ย (Days’ Supply) ของรถใหม่ก็ลดลงอย่างมากจาก 91 วัน เหลือเพียง 70 วัน ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี

ยอดขายรถใหม่ในช่วงปลายไตรมาสแรกของปีนี้ก็เร่งตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม 2025 ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 17.2% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นเกือบ 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนในตลาดรถยนต์มือสองซึ่งมีปริมาณจำหน่ายต่ำอยู่แล้ว ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากการเก็งกำไรและเร่งซื้อ โดยอุปทานในต้นเดือนเมษายนลดลงเหลือ 2.14 ล้านคัน ลดลงจาก 2.18 ล้านคันเมื่อเดือนมีนาคม และลดลง 1% จากปีก่อน ขณะที่ Days’ Supply ลดลงเหลือ 39 วัน ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งสะท้อนถึงความตึงตัวของอุปทานที่มีอยู่อย่างจำกัด

นักวิเคราะห์จากบริษัท Telemetry คาดการณ์ว่าผลจากมาตรการภาษีนำเข้าในปี 2025 จะทำให้ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ และแคนาดาหดตัวรวมกันกว่า 1.8 ล้านคัน และหากมาตรการเหล่านี้ยังคงอยู่ต่อไปจนถึงปี 2035 ผลกระทบสะสมอาจทำให้ยอดขายสะสมลดลงถึง 7 ล้านคันเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติ โดยต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งในด้านการผลิต ชิ้นส่วน และการขนส่ง อาจถูกผลักภาระไปยังผู้บริโภค ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการซื้อของประชาชนในระยะยาว

ในภาคธุรกิจ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่าง General Motors, Ford และ Stellantis ได้ดำเนินการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การเพิ่มกำลังผลิตในโรงงานในรัฐอินเดียนาและเทนเนสซี รวมถึงการเสนอโปรโมชั่น “ราคาพนักงาน” ให้แก่ลูกค้า ขณะที่บางบริษัทอย่าง Jaguar Land Rover ได้หยุดการนำเข้ารถยนต์บางรุ่นชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าผู้จัดจำหน่ายรถยนต์บางแห่งเริ่มประสบปัญหากำไรต่อคันลดลง แม้ยอดขายจะยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากผู้บริโภคในช่วงนี้มีความระมัดระวังเรื่องราคามากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา

แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะระบุเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า เขาต้องการ “ช่วยเหลือบางบริษัทรถยนต์” แต่ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าแนวทางช่วยเหลือจะมีลักษณะใด ขณะที่ประธานบริษัท Stellantis ได้แสดงความหวังต่อคำกล่าวดังกล่าว แต่ก็ยอมรับว่า สถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดในยุโรป รวมถึงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ กำลังกดดันตลาดรถยนต์ทั่วโลกให้อยู่ในสภาพ “เสี่ยง” อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าผลกระทบจากนโยบายภาษีไม่เพียงแต่ส่งผลต่อราคาสินค้าในระยะสั้น แต่ยังเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค ปรับโครงสร้างซัพพลายเชน และสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดรถยนต์ในระดับภูมิภาคและโลกอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังคงเปราะบางจากความไม่แน่นอนหลายด้าน


 

ที่มา : U.S. vehicle supply falls amid tariff fear-buying

ติดตามเราได้ที่ 

Facebook

Cinvestix Writer
Cinvestix Writerhttp://cinvestix.com
Business, Investment and Lifestyle

Read more

Articles You Might Like