รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ก้าวขึ้นเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของโลก แซงหน้าญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ จากข้อมูลล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ (BEA) โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของแคลิฟอร์เนียในปี 2024 อยู่ที่ 4.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ ญี่ปุ่นที่อยู่ที่ 4.02 ล้านล้านดอลลาร์
ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรัฐทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจรองจากเพียงสหรัฐฯ ทั้งประเทศ จีน และเยอรมนี โดยแคลิฟอร์เนียยังเป็นรัฐที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยโตถึง 6% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ GDP ของสหรัฐฯ ขยายตัว 5.3% เยอรมนี 2.9% และจีนเพียง 2.6%
นโยบายภาษีทรัมป์ จุดเสี่ยงต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจรัฐ
แม้จะมีความสำเร็จด้านตัวเลข แต่ผู้ว่าการรัฐ แกวิน นิวซัม เตือนว่า “ชัยชนะนี้อาจไม่ยั่งยืน” หากรัฐบาลกลางยังคงใช้นโยบายการค้าก้าวร้าว โดยเฉพาะการประกาศเก็บภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมทั่วโลกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
แคลิฟอร์เนียยื่นฟ้องคดีต่อรัฐบาลกลางเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา คัดค้านการใช้อำนาจพิเศษตามกฎหมาย IEEPA (International Emergency Economic Powers Act) ที่ทรัมป์อ้างในการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา โดยไม่ได้รับการเห็นชอบจากรัฐสภา
นิวซัมระบุว่า “มาตรการภาษีเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบทันทีต่อห่วงโซ่อุปทาน ค่าครองชีพ และรายได้ของธุรกิจในรัฐ ทำให้แคลิฟอร์เนียต้องเผชิญความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง”
รัฐที่เชื่อมกับโลกมากที่สุด อาจถูกกระทบมากที่สุด
แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก โดยมีการค้าสองทางรวมมูลค่ากว่า 675,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา โดย 40% ของสินค้านำเข้ามาจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา ซึ่งกำลังเผชิญกับภาษีในระดับสูง
รายงานจาก Milken Institute เตือนว่าหากมาตรการภาษียังดำเนินต่อเนื่อง อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ การส่งออก และผู้ประกอบการข้ามชาติในแคลิฟอร์เนียจะได้รับผลกระทบมากกว่ารัฐอื่น ๆ เนื่องจากรัฐนี้มีความเชื่อมโยงกับตลาดโลกสูงเป็นพิเศษ แม้ว่าสินค้าบางประเภทเช่น คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือจะยังได้รับการยกเว้นภาษีบางส่วน
เศรษฐกิจโต แต่ความเหลื่อมล้ำยังคงอยู่
แม้แคลิฟอร์เนียจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ภายในรัฐยังเผชิญกับความเหลื่อมล้ำที่ลึกขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องรายได้ต่อหัวและโอกาสทางเศรษฐกิจ ในปี 2023 รายได้ต่อหัวของประชากรใน Bay Area อยู่ที่ 131,000 ดอลลาร์ สูงกว่าภูมิภาค Inland Empire และ Central Valley เกือบสองเท่า
ในขณะเดียวกัน ภาคเอกชนของรัฐสูญเสียตำแหน่งงานสุทธิกว่า 154,000 ตำแหน่งตั้งแต่ปี 2022 ขณะที่ภาครัฐเพิ่มขึ้นกว่า 360,000 ตำแหน่ง ซึ่งอาจสะท้อนถึงโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป และปัญหาด้านที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภค และแรงงานที่ยังต้องการการแก้ไขเชิงลึก
อินเดียคือคู่แข่งรายถัดไป
หากแนวโน้มยังคงดำเนินต่อไปแบบนี้ IMF คาดว่า อินเดีย ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจที่ 3.9 ล้านล้านดอลลาร์ จะก้าวขึ้นมาแทนที่แคลิฟอร์เนียในลำดับที่ 4 ภายในปี 2026 โดยเฉพาะหากอินเดียไม่ถูกกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน
