ทีมเศรษฐกิจประเทศไทยเตรียมเดินทางเข้าสหรัฐฯ สัปดาห์หน้า นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเจรจาอย่างเป็นทางการกับตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ ในประเด็นมาตรการภาษีนำเข้าฉบับใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ตั้งเป้าขึ้นภาษี 36% ต่อประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ โดยกำหนดวันเจรจาไว้ในวันที่ 23 เมษายนนี้
แม้มาตรการภาษียังไม่เริ่มบังคับใช้ทันที โดยถูกเลื่อนออกไปอีก 90 วัน แต่ไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูงถึงกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 72% ของการค้าระหว่างกัน ทำให้ไทยกลายเป็นเป้าหมายลำดับต้น ๆ ในแผนการเจรจาของสหรัฐฯ
นายพิชัยเผยว่า ฝ่ายไทยเตรียมพร้อมหลายด้านก่อนการเจรจา โดยมีการหารือร่วมกับภาคพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพสามิต และกลุ่ม ปตท. เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเสนอแผนนำเข้าก๊าซ LNG และก๊าซอีเทนจากสหรัฐฯ รวมมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า เป็นหนึ่งในแนวทางสร้างสมดุลทางการค้าระหว่างสองประเทศ
แผนเจรจาที่ไทยจะเสนอมี 5 กรอบหลัก ได้แก่
-
ส่งเสริมความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่เกื้อหนุนกัน เช่น อาหารสัตว์และปศุสัตว์
-
เปิดตลาดสินค้าเกษตรบางประเภทที่ไทยขาดแคลน เช่น ข้าวโพดและผลไม้เมืองหนาว
-
เพิ่มการนำเข้าสินค้าจำเป็นจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยี
-
ควบคุมการส่งออกของไทยเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ
-
ส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมแปรรูป
ด้านนางแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ว่า ประเทศไทยพร้อมร่วมมือกับอาเซียนในประเด็นภาษีสหรัฐฯ โดยเน้นการหาทางออกร่วมกันภายใต้ความสงบและผลประโยชน์ร่วมแบบวิน-วิน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลมีแผนสนับสนุนภาคเอกชนไทยให้ขยายการลงทุนในต่างประเทศ และมั่นใจว่าการเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีทั้งต่อไทยและสหรัฐฯ เนื่องจากทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นมายาวนาน
อย่างไรก็ตาม แม้รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ ยังไม่ยืนยันตัวบุคคลที่จะเข้าร่วมเจรจากับฝ่ายไทย แต่ทีมไทยแลนด์ก็ยังคงเดินหน้าเต็มกำลัง และเตรียมข้อมูลเชิงลึกในประเด็นสำคัญต่าง ๆ รวมถึงการบริหารทุนสำรองและผลกระทบต่อตลาดทุน-ตลาดเงินอย่างรอบด้าน
สถานการณ์นี้จึงนับเป็นหมากสำคัญในเวทีเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่ต้องจับตาท่าทีของไทยในการเจรจาอย่างรอบคอบท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายสหรัฐฯ และแรงกดดันจากการแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐที่กำลังกระเพื่อมสู่ภูมิภาคอาเซียนโดยตรง
ที่มารูปภาพ : Facebook ไทยคู่ฟ้า